จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามีธุรกิจ “สปา” เกิดใหม่มากมาย ผู้ใช้บริการก็มีทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวทั้งจากเอเชียและยุโรป แต่ที่ปีนี้มาแรงมากคือ “ชาวจีน” ซึ่งมาเป็นกรุ๊ปทัวร์บ้าง ครอบครัวบ้าง กลุ่มเพื่อนบ้าง และการเข้ามาของพวกเขาก็กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างก้าวกระโดด เจ้าบ้าน เจ้าของกิจการยิ่งต้องเตรียมการต้ังรับ
ธุรกิจ Spa in chiangmai ก็เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ ที่มีขึ้นมีลง สำคัญที่ต้องเข้าใจและใส่ใจลูกค้าเป็นพิเศษ เพราะ “การบริการ” มีผลต่อ “Emotion” ของลูกค้าโดยตรง สปาระดับพรีเมียมซึ่งเปิดให้บริการมานาน ตอนนี้ธุรกิจ Spa in chiangmai มีลูกค้าชาวจีนมาใช้บริการมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ และรับพนักงานที่เป็นคนจีนมาให้บริการในสาขาที่กรุงเทพฯ แล้ว
ธรรมชาติของนักท่องเที่ยวชาวจีน ต้องการสินค้าและบริการที่ “สมราคา” และ “คุ้มค่าที่สุด” และส่วนใหญ่ชอบการต่อรอง คนที่ทำธุรกิจสปามานานอย่างภาคินจึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าชาวจีนได้ต่อรองราคา ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าคิดต่อว่า มีลูกค้าหลายคนที่เสียค่าที่พักในเชียงใหม่ ราคาคืนละไม่ถึงพันบาท แต่ยินดีจะจ่ายค่าทำสปา 1-2 ชั่วโมง ในราคามากกว่า 1,500 บาท พวกเขาสนใจและมีความตั้งใจใช้เงินเพื่อการนี้จริงๆ และยินดีควักเงินให้งานบริการประเภทนี้โดยเฉพาะ
ส่วนหนุ่มสาวจากแดนกิมจิ ปีนี้ที่เข้ามาทำ Spa in chiangmai มากกว่าที่ภาคินคาดหมายไว้ ในขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังมีเข้ามาสม่ำเสมอ ไม่หวือหวา แต่นักท่องเที่ยวที่เป็นชาวอเมริกันกลับบางตาอย่างเห็นได้ชัด เชื่อว่าเป็นเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ
ธุรกิจสปาเติบโตได้ดีในเมืองที่มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจสูง แต่กลุ่มลูกค้าก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด จึงต้องมีการสังเกตลูกค้า มีการจัดการที่ทันสมัย และมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยให้พนักงานอบรมเพิ่มทักษะอย่างต่อเนื่อง และ “นำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ” เพื่อการบริการจัดการที่รวดเร็วและถูกต้อง